คุณสมบัติวัสดุ
- เป็นระบบทาเคลือบผนังและดาดฟ้ากันน้ำที่ให้ความยืดหยุ่นตัวสูง ซึ่งได้รับการพัฒนาขึ้นเพื่อรักษาพื้นผิวอาคารทุกประเภทและสามาใช้แทนสีได้
- ใช้ทาพื้นอาคารเพื่อความสวยงามและเป็นการรักษาผิวผนังอาคารสูงให้มีความคงทน
- การทาปิดทับรอยแตกร้าว เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิสูง
- ป้องกันพื้นผิวคอนกรีตเสื่อมสภาพ อันเกิดจากก๊าซคาร์บอนไดอ็อกไซต์ในอากาศ
- ชนิด : Acrylic Co-polymer
- Elongation : ไม่น้อยกว่า 400%
- Tensile Strength : 3.8 Mpa
- Water Vapor Transmission rate at 25 C and 90% relative humidity : 2.63 g/m2 .d
- ตัวทำละลาย : น้ำสะอาด
- Dirt Pick up Resistance (ผ่านการทดสอบเรื่องการป้องกันการจับตัวของฝุ่น)
ขั้นตอนการทำงานสำหรับงานดาดฟ้าอาคาร
- เตรียมพื้นผิวให้สะอาดโดยการล้างด้วยแปรงลวด ถ้าพื้นผิวมีรอยแตกก็ต้องซ่อมแซมด้วย Vobond EX หรือ Seal ด้วย Polyurethane Sealant โครงสร้างดาดฟ้าควรอยู่สภาพสมบูรณ์ปราศจากรอย Crack หรือรอยแตกร้าว
- ทารองพื้นด้วย Cement Base
- ทำการเคลือบผิวชั้นแรกทับพื้นผิวที่ทารองพื้นเรียบร้อยแล้ว
- สำหรับการเคลือบเที่ยวสุดท้ายควรจะทิ้งไว้อย่างน้อย 24 ชั่วโมง จึงสามารถใช้งานได้และใช้เวลาในการ set ตัว 7 วัน
ขั้นตอนการทำงานสำหรับผนังอาคาร
ทา Build Bond Lastic Primer (ตัวรองพื้น) ลงบนพื้นผิววัสดุที่ต้องการ และใช้ลูกกลิ้งเกลี่ยปาดให้กระจายออกไปทั่วบริเวณ หลังจากนั้นทิ้งไว้ให้แห้งแล้วทา Build Bond Lastic อย่างน้อย 2 ชั้น โดยใช้ Build Bond Lastic 1 กิโลกรัม ต่อพื้นที่ 1.5-2 ตารางเมตร (2 เที่ยว) การใช้แปรงทาให้ทาไปในทิศทางเดียวกันตลอด การทาบทับชั้นที่ 2 ให้ทาแนวขวางกับเที่ยวแรก จะทำให้พื้นผิวที่ทาเรียบสม่ำเสมอทัวบริเวณ ไม่ควรทา Build Bond Lastic ในขณะที่อากาศเย็นมากใกล้จุดเยือกแข็ง หรือขณะที่มีความชื้นในอากาศสูง แปรงที่ใช้ควรเป็นแปรงไนลอนหน้ากว้างหมายเหตุ : พื้นผิวผนังอาคารถ้ามีรอยแตกร้าวต้องดำเนินการซ่อมรอยแตกร้าวก่อน พื้นผิวหน้างานต้องอยู่ในสภาพสมบูรณ์ก่อนการติดตั้งระยะเวลาของการเริ่มใช้งาน
- Build Bond Lastic จะแห้งภายใน 2 ชั่วโมง ที่อุณหภูมิ 18 c ขึ้นไปในขณะที่อากาศเย็นมาก ถ้ามีความชื้นสูงให้ทาทิ้งไว้ข้ามคืนแล้วถึงทาเที่ยวต่อไปได้
- ไม่ควรทา Build Bond Lastic ในขณะที่ฝนตก หรือมีอุณหภูมิต่ำว่า 10 c
- ที่อุณหภูมิปกติแห้งสนิทภายใน 16 ชั่วโมงและบ่มตัวสมบูรณ์เต็มที่ที่ 7 วัน